สปอยล์แบบจัดเต็ม อนิเมะ Overlord Season 03 Episode 13 (ส่วนที่ 0 - เวอร์ชั่นบ่น)


อยากข้ามตอนนี้ไปมาก เพราะต้องมาเจอกับฉากสะเทือนใจ
แต่เห็นว่ายังมีคนคอยติดตามแล้วส่งข้อความมา ก็เลยลงเสียหน่อย

เนื้อเรื่องส่วนนี้คือเนื้อเรื่องของนิยายเล่มที่ 9 บทที่ 4 ตอนที่ 4 ส่วนท้ายสุด ซึ่งต่อจากตอนที่ 4 (ส่วนที่ 4) ที่ยังลงไม่จบของโพสต์ก่อนหน้าเลย

ซึ่งน่าจะเป็นช่วงแรกของ Season 03 Episode 13
โพสต์นี้มีเนื้อหาบ่น บ่น บ่น บ่น และด่า
หากต้องการอ่านแบบบ่นน้อย (อ้าวยังมีบ่นอยู่นี่) ให้กลับไปอ่านโพสต์ที่แล้วที่ได้อัพเดทให้ใหม่ :D

หมายเหตุ: บางเหตุการณ์อาจถูกข้ามฉากไปเมื่อทำเป็นอนิเมะ และอาจมีเนื้อเรื่องที่สปอยล์เกินตอนไป
หมายเหตุ2: เนื้อเรื่องของเล่มที่ 9 บทที่ 4 ตอนที่ 4 ส่วนท้ายสุดนี้ คาดว่าจะตรงกับเนื้อเรื่องของอนิเมะ ซีซั่น 3 ตอนที่ 13
หมายเหตุ3: เปลี่ยนชื่อโพสจากส่วนที่ 1 เป็นส่วนที่ 0 เพื่อไม่ให้สับสน

VVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVV

ใบหน้าของไอนซ์นั้นเป็นกระโหลกที่ไม่มีเนื้อ ด้วยเหตุนี้ใครก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาแสดงหน้าตาแบบไหนหรือมองเห็นได้ถึงสิ่งที่เขากำลังคิด

อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาดูเหมือนพูดอะไรไม่ออก นั่นคือสิ่งที่คนอื่นอีกสองคนคิดขณะที่พวกเขาทบทวนสถานการณ์ตามความเป็นจริง แม้ว่าเขาจะนิ่งเงียบ ความไม่สบายใจนั้นสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

". . . คุณเอาจริงอย่างนั้นรึ?"

"แน่นอน"

". . . คุณจะตาย"

"ไม่ต้องสงสัยเลยถึงเรื่องนั้น" (TLN: คนประเภทไหนที่รู้ว่าจะตาย แต่ก็ยังเดินไปสู่หนทางนั้น ต้องลำบากให้แฟนคลับออกมาปกป้องอีก เพื่อไม่ให้ตายอย่าง. . . อย่างเช่น กาเซฟเป็นคนจงรักภักดีและมีเกียรติ)

"ถ้าคุณรู้แล้ว ดังนั้นทำไมต้องทำเช่นนี้?  ข้าไม่มีความตั้งใจที่จะฆ่าคุณแต่แรก . . . คุณต้องการที่จะฆ่าตัวตาย?"

"ไม่ ผมไม่คิดเช่นนั้น" (TLN: เอิ่ม . . . ความกลัวส่งผลต่อสติปัญญาสินะ)

". . . คุณกำลังคิดอะไรอยู่? ข้าไม่สามารถเข้าใจในตรรกะของคุณได้ ถ้าคุณเชื่อว่าคุณสามารถที่จะเอาชนะได้และขอมาท้าดวล ข้าสามารถเข้าใจได้ หากคุณคิดว่ามีโอกาสที่ชนะภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ นั่นก็มีเหตุผลเช่นกัน อย่างไรก็ตามคุณเชื่ออย่างเด็ดขาดว่าคุณจะแพ้ คุณได้สูญเสียการตัดสินใจที่ดีไปแล้ว? (TLN: หรือแปลว่า คุณได้เสียสติไปแล้ว? คือกาเซฟมันเป็นบ้า)"

"พระราชาของศัตรูได้มาอยู่ต่อหน้าผม และเขาอยู่ภายในระยะดาบของผม ไม่ใช่ว่าเป็นธรรมดาที่จะดูว่าผมสามารถรับหัวนั้นไปได้หรือไม่เมื่อหัวนั้นมาเสนอตัวเอง? (TLN: ยื่นคอเข้าเขียงก็ขอฟันเสียหน่อย หรือไหนๆก็โผล่หน้ามาแล้วก็ขอลองดูสักตั้ง)"

"มันจริงที่ว่าระยะทางกายภาพของพวกเรานั้นใกล้กันมาก อย่างไรก็ตามข้าเห็นว่ามันมีความแตกต่างอย่างท่วมท้นระหว่างพวกเรา หรือข้าผิด?"

ด้วยเสียงที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เหล่าหนวดที่ห้อยจากดาร์คยังด้านหลังของไอนซ์หวดมาด้านหน้า ก้อนดินบนพื้นกระเด็นขึ้นมาข้างตัวกาเซฟ

ตาของกาเซฟไม่สามารถมองตามหนวดที่หวดพื้นข้างๆตัวเขา

"นั่นอาจเป็นเช่นนั้น ท่านโกน"

"หรือคุณจะลองเสี่ยงโชคดูเพราะข้าได้พูดว่าข้าไม่ต้องการที่จะฆ่าคุณ?"

กาเซฟหัวเราะออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

"ไม่แน่นอน ผมแค่ต้องการทำสิ่งที่ผมต้องการ ในฐานะหัวหน้านักรบของราชอาณาจักรที่ควรทำ นั่นคือทั้งหมดที่ผมกำลังคิด (TLN: สมองกล้ามจริงๆ สรุปคือไม่ได้คิดอะไร แค่ทำตามหน้าที่)"

". . . ถ้าข้ายอมรับการท้าดวล คุณได้ตระหนักหรือไม่ว่าข้าจะสังหารคุณโดยที่ไม่ยับยั้งชั่งใจ? (TLN: อย่างไม่ปรานี) มันเป็นสิ่งเดียวที่จะคาดหมายได้"

"มันคือสิ่งที่แน่นอน"

"ดังนั้นมันจะเป็นอย่างนั้น . . . แม้หลังจากที่ข้าพูดทั้งหมด คุณก็ยังปฏิเสธที่จะเปลี่ยนความคิด ช่างน่าเสียดาย (TLN: หรือแปลว่าน่าอายเสียจริง น่าสงสารเสียจริง) พูดในฐานะของนักสะสม มันเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่จะต้องทำลายตัวอย่างที่หายาก"

กาเซฟไม่มีความตั้งใจที่จะยอมจำนน

นี่เป็นเรื่องโชคดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ เริ่มต้นด้วย ไอนซ์ที่ล้อมรอบตัวเขาด้วยเหล่าลูกน้องที่เหลือเชื่อ (TLN: หรือแปลว่า ดีมาก น่าประทับใจ น่าอัศจรรย์ พิเศษ) ในตอนนี้ยืนอยู่เบื้องหน้าเขาโดยไม่มีองครักษ์

ยิ่งไปกว่านั้น ความทะนง (TLN: หรือแปลว่า หยิ่ง ยโส ภาคภูมิใจ มีทิฐิ) จากการที่เป็นผู้ที่ทรงพลัง หมายความว่าเขาจะไม่ออกคำสั่งให้ดาร์คยังด้านหลังของเขาให้ทำอะไร

เขาจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกครั้ง

ศัตรูของเขาอยู่ในจุดที่สูงเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมถึง อย่างไรก็ตามในตอนนี้ เขามีโอกาสที่จะลดช่องว่างระหว่างพวกเขาลง

ครั้งต่อไปที่จะได้พบกัน เขาอาจล้อมรอบตัวเขาด้วยองครักษ์สิบหรือยี่สิบชั้น (TLN: เอิ่ม ครั้งแรกที่เจอกันมีองครักษ์คืออัลเบโด้คนเดียวกับเดธไนท์อีกตัว ครั้งนี้มีมาเร่กับนินบูรุกับกองกำลัง500ที่ไว้รบ มโนอะไรเนี่ยกาเซฟ)  เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ร่ายเวทที่แย่ทางด้านการการต่อสู้ระยะใกล้ กาเซฟจะไม่มีโอกาสให้ไอนซ์อยู่ในระยะดาบของเขาอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงท้าดวลไอซ์ให้ต่อสู้กันตัวต่อตัว

(TLN: จะด่าก็สงสาร ไปท้าดวลคนที่ตัวเองคิดว่า เค้าเป็นคนทะนงเพราะมีพลังมาก คนทะนงอย่างนั้นจะเมื่อไหร่เขาก็รับคำท้าอยู่ดี ไม่ต้องรอโอกาสให้อยู่คนเดียวอย่างนี้หรอก อีกอย่างวิเคราะห์ได้ยังไงว่าผู้ร่ายเวทอย่างไอซ์ จะไม่เก่งในการต่อสู้ระยะประชิด แถมไอซ์เป็นอันเดดซะอีกน่ะ ขนาดนักวิเคราะห์ที่มันสมองติดระดับโลกใหม่อย่างจิรุคุนิฟุยังบอกว่าไอนซ์ร่ายเวทเดียวน่าจะฆ่าได้ซักกี่พันนะ สองพัน สามพัน? หนี่งในคนที่เก่งที่สุดในจักรวรรดิอึ้งแล้วบอกเป็นไปไม่ได้ เรบุนที่ฉลาดและเป็นนักวางแผนเจอไอนซ์ด้วยตัวเองยังบอกว่าจิตนาการถึงพลังของไอนซ์ไม่พอ ส่วนกาเซฟที่ได้เจอด้วยตัวเองเช่นกัน ไอนซ์ร่ายเปรี้ยงเดียวตาย 70,000 แถมแพะที่ออกมาจากเปรี้ยงเดียวที่ว่าเหยียบทหารตายไปอีกแสนกว่า กาเซฟยังคิดจะไปสู้ แต่เดี๋ยวเหตุผลของกาเซฟมีต่อด้านล่าง)

และมันมีเหตุผลอีกอย่างสำหรับการท้าดวล

ถึงแม้ว่าโอกาสของความหวังนั้นจะเล็กน้อยมากที่จะหวัง แต่กระนั้น - กาเซฟก็ประกาศการท้าดวลอย่างเป็นทางการ

"ท่านราชาผู้ร่ายเวท ไอนซ์ อูล โกน! ผมชื่อว่ากาเซฟ สโตรนอฟ หัวหน้านักรบแห่งราชอาณาจักรรี-เอสทีเซ ผมร้องขออย่างเป็นทางการในการต่อสู้ตัวต่อตัวกับคุณ!"

"หัวหน้านักรบ . . "

"กาเซฟ!"

ไม่สามารถที่จะยับยั้งตัวเองได้อีกต่อไป เบรนร้องตะโกน แต่กาเซฟยังคงพูดต่ออย่างไม่ลังเล

"ถ้าหากคุณยอมรับได้ ท่านราชาผู้ร่ายเวท ผมขอวิงวอน ท่านจะพบว่าสองคนนี้เหมาะสมที่จะเป็นสักขีพยานสำหรับการต่อสู้ของพวกเรา"

ไอนซ์ยักไหล่

เอาเลย (TLN: หรือแปลว่าเชิญ หรืออนุญาตให้ดำเนินการต่อได้) ดูเหมือนมันจะบอกอย่างนั้น เมื่อกาเซฟตระหนักได้ เขาพยักหน้า

"เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน! รอก่อน กาเซฟ! ชั้นสามารถที่จะตายไปพร้อมกับนายได้เสมอ! (TLN: ชั้นจะตายไปพร้อมกับคุณค่ะ! ไม่ใช่ละ) อย่าไปคนเดียว! ท่านลอร์ด (TLN: มาอีกแล้วมันคือ มายลอร์ด) ราชาผู้ร่ายเวท! ได้โปรด ผมอ้อนวอนท่าน! ผมรู้นี่มันไร้ยางอายเกินกว่าจะเชื่อ แต่นี่คือคำขอร้องจากใจจริง! ได้โปรดให้เราทั้งสองเผชิญหน้ากับท่าน! ผมรู้ว่านี่จะไม่สร้างความลำบากให้ท่านแม้แต่น้อย!"

เมื่อเขาได้ยินคำอ้อนวอนที่บีบคั้น กาเซฟคิดว่ามันก็เป็นตามที่คาด . . .

การแสดงออกที่เขาเห็นบนใบหน้าของเบรนนั้นเป็นของนักรบที่ยอมรับชะตากรรม

มันเป็นการตัดสินที่เขาจะถูกฆ่าไปพร้อมกันกับกาเซฟโดยไอนซ์ อูล โกน

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ยอมรับมัน เขาไม่สามารถยอมรับมันได้

"เบรน อันกุลัส! คุณอยากมาทำให้ความเชื่อมั่นอันแรงกล้าของผมต้องแปดเปื้อนในฐานะนักรบหรือ?"

ใบหน้าของเบรนแสดงถึงความตกตะลึง

"- นั่นได้ไม่เป็นไร ท่านกาเซฟ ข้าไม่ถือที่จะจัดการคุณทั้งสองไปพร้อมกัน"

"ได้โปรดอย่า ท่านราชาผู้ร่ายเวท การต่อสู้ตัวต่อตัวนี้เกี่ยวกับตัวผม ผมวิงวอนให้ท่านไว้ชีวิตสองคนที่อยู่ที่นี่" (TLN: โอ้โห ปล่อยคนอื่นที่เหลือหลายหมื่นให้ตาย แต่ให้ไว้ชีวิตสองคนนี้ โคตรคนดีอะ)

จุดดวงไฟสีแดงที่ลอยอยู่ในเบ้าตากระดูกของไอนซ์ส่องสว่างมากขึ้น

". . . นี่คืออะไร ข้าเคยเห็นแววตาอย่างนั้นมาก่อน ตาของชายที่ยอมรับในความตายและวิ่งเข้าหามัน ตาที่เด็ดเดี่ยว มั่นคง ช่างน่าชื่นชม (TLN: หรือแปลว่า ยกย่อง เลื่อมใส)"

ไอนซ์พูดเหมือนกับว่าเป็นมนุษย์

"นั้นก็ได้ ข้ายอมรับในข้อเสนอของคุณ ข้าจะต่อสู้ตัวต่อตัวกับท่านกาเซฟ"

เบรนล้มและคุกเข่าอย่างไร้กำลัง (TLN: หรือแปลว่า หมดแรง)

ใบหน้าของเขานั้นไม่สามารถมองเห็นได้ แต่มันมีหยดน้ำฝนพรมลงบนพื้นสีแดงเข้มเบื้องล่างของเขา (TLN: รู้ว่าร้องไห้แต่ทำไมต้องหยดน้ำฝน?)

ผมขอโทษ

กาเซฟบอกเบรนในใจของเขา

"ศพจะถูกคืนกลับไปหลังจากผ่านการเก็บรักษาที่เหมาะสม มันจะช่วยอำนวยในการใช้เวทมนตร์ชุบชีวิต -"

"- มันไม่มีความจำเป็นสำหรับเรื่องนั้น"

คำพูดของกาเซฟทิ้งให้ทั้งเพื่อนและศัตรูของเขาพูดอะไรไม่ออก

"ผมไม่ต้องการที่จะให้นำชีวิตกลับคืนมา คุณสามารถกำจัดร่างของผมที่นี่ได้ถ้าคุณต้องการ" (TLN: มีแต่ผมต้องการ ผมไม่ต้องการ ผมวิงวอน รำคาญกว่าไอ้ TLN บ่น ก็ไอ้กาเซฟต้องการนี่แหละ ไม่มีอะไรซักอย่าง ขออยู่นั่นแหละ ทำไมไม่ขออย่างอื่น)

มันไม่ใช่ว่าเวทมนตร์ชุบชีวิตนั้นไม่ดี อย่างไรก็ตามกาเซฟไม่ชอบมัน ทุกๆคนมีเพียงหนึ่งชีวิต

มันเป็นเพราะเหตุนี้ที่การตัดสินใจที่จะเสี่ยงชีวิตนั้นมีความหมาย

และดังนั้น แม้แต่จะเพื่อราชอาณาจักรของเขา เขาก็จะไม่กลับมาจากความตาย หากกาเซฟตาย ดังนั้นพระราชาสามารถประกาศข่าวว่าท่านได้สูญเสียผู้รับใช้คนสำคัญไป วิธีนั้นบางทีเขาอาจทำให้พายุแห่งความไม่พอใจและความเกลียดชังอ่อนลงได้ ที่เกิดขึ้นจาการสูญเสียผู้คนของราชอาณาจักรเป็นจำนวมาก

นี่คือการทำหน้าที่อันจงรักภักดีสุดท้ายจากหัวหน้านักรบของราชอาณาจักร ผู้ที่ได้เลือกที่จะทำตามความเห็นแก่ตัวของตน

(TLN: โอ้โห ลึกซึ้ง สรุปฆ่าคนอีกหลายหมื่นเพราะการสินใจที่เห็นแก่ตัวของตัวเอง เสร็จแล้วฆ่าตัวตายตามหนีปัญหา ปากที่บอกทำเพื่อประชาชน หรือประเทศตัดไปได้เลย กาเซฟแค่ทำเพื่อพระราชา คิดสภาพชายหนุ่มหรือชายที่มีพลังพอที่จะรบได้ถูกเกณฑ์ออกมารบ แต่สุดท้ายโดนฆ่ากันเป็นแสน พลังของประเทศจะลดมากขนาดไหน? ครอบครัวของเขาเหล่านั้นจะว่ายังไงโดยเฉพาะถ้ารู้ว่ามีข้อเสนอของไอนซ์ที่จะไว้ชีวิตซึ่งกาเซฟได้ปฏิเสธ แล้วนี่พอตายแล้วไม่ยอมให้ชุบอีก ต่อรองกับไอนซ์ได้มากก็ไม่ต่อรองมัวแต่คิดอะไรแบบนี้ ก็ใช่สินะชีวิตพวกชาวบ้านชาวนาเหมือนผักปลา จะให้ตายเท่าไหร่ก็ได้เพื่อความจงรักภักดีของตัว ไอคนเห็นแก่ตัว แต่ยังดีที่คิดว่าความตายของตัวเองอาจมีประโยชน์อยู่บ้าง เพราะคนสำคัญของพระราชายังตาย พวกประชาชนก็คงสงบได้บ้าง กลับกันถ้าทุกคนเข้าใจและกาเซฟยอมให้ชุบขึ้นมา กาเซฟจะสามารถทำหน้าที่สำคัญและมีประโยชน์กว่าอีกมาก)

เมินเฉยต่อการจ้องมองที่ตกตะลึงรอบๆตัว กาเซฟยิ้มอย่างสงบ

"ถ้างั้น ให้พวกเราได้เริ่มกันเถอะ คุณทั้งสอง ผมหวังว่าคุณจะแบกรับการเป็นสักขีพยานของการต่อสู้สุดท้ายของผม"

ไคลม์ไม่เคยคิดว่าชายที่ชื่อ เบรน อันกุลัส จะแสดงด้านอ่อนโยนและเซ้นซิทีฟ (TLN: หรือแปลว่า ความอ่อนไหว ความละเอียดอ่อน ไวต่อการกระตุ้น) ให้ตัวเขาเห็น (TLN: เบรนxกาเซฟฟฟฟฟ ไม่ใช่ละ)

เขารู้ว่าเบรนนั้นแข็งแกร่ง มีชีวิตชีวา (TLN: หรือแปลว่ามุ่งมั่น กล้าหาญ สนุกสาน ร่าเริง) และเป็นอิสระ (TLN: หรือแปลว่าทำตามอำเภอใจ) อย่างไรก็ตามชายที่กำลังก้มหัวอยู่ดูไม่เหมือนอย่างนั้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามแม้เขาจะเป็นอย่างนั้นแต่เขาก็ไม่ได้ดูยอมจำนนหรืออ่อนแอ

"เบรน คุณจะไม่ทำหน้าที่ของคุณหรือ?"

กาเซฟพูดคำเหล่านี้โดยที่ไม่ได้หันกลับไปมอง

เบรนไม่ขยับ วิธีที่มือของเขาตะครุบ (TLN: หรือแปลว่าข่วน แทง ขุด ควัก จิก กำ เกาะ ยึด) ไปที่พื้นดินส่งความรู้สึกเศร้าโศกเสียใจมายังไคลม์ แต่กระนั้นไคลม์ก็ต้องพูดมัน

". . . นี่คือความต้องการสุดท้ายของท่านสโตรนอฟ"

เขาไม่คิดว่ากาเซฟ สโตรนอฟจะชนะได้แต่อย่างใด

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมไคลม์กับเบรนต้องเติมเต็มคำขอร้องสุดท้ายของกาเซฟ อย่างช้าๆเบรนได้ลุกยืนขึ้น

มันร้อน

มันทำให้ไคลม์รู้สึกอยากวิ่งหนีไปด้วยความกลัว (TLN: วิ่งหนีหางจุกตูดนั่นเอง)

มันดูเหมือนว่ามีอากาศร้อนบางอย่างดันตัวเบรนให้ลุกขึ้น (TLN: ไม่รู้ว่าฉากนี้ต้องใส่ซาวด์เอฟเฟก บรืน ๆ ๆ ฮึ่ม ๆ ๆ มั้ย เสียงเครื่องยนต์ xD )

". . . ชั้นทำให้นายได้เห็นด้านน่าอับอายขายหน้าของชั้น ไคลม์คุง แต่มันไม่เป็นไร ชั้นจะจารึกภาพอันยิ่งใหญ่ (TLN: หรือแปลว่า ทรงเกียรติ  สง่างาม สูงศักดิ์ ชั้นสูง ประเสริฐ) ของกาเซฟด้วยตาของชั้น"

". . . ขอบคุณ"

เบรน อันกุลัสกับกาเซฟ สโตรนอฟมีความสัมพันธ์แบบใดกัน?

ไคลม์ไม่เข้าใจถึงสายสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านของเบรน

หลังจากที่แพ้ให้กับกาเซฟ เขาได้เริ่มต้นออกเดินทางเพื่อทำให้ทักษะดาบของเขาก้าวหน้าขึ้น นี่เป็นเบรนที่ไคลม์รู้จัก อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย

"ดังนั้น ท่านสโตรนอฟ ให้ข้าได้ดูดาบนั่นได้หรือไม่? มันมีบางอย่างที่ข้าต้องการจะรู้"

ไอนซ์ถามถึงเหมือนเขากำลังถามเกี่ยวกับสภาพอากาศ ดาบที่เสริมพลังจะสามารถมีความสามารถใดๆก็ได้เติมเข้าไปในตัวมัน การตรวจสอบดาบเป็นเหมือนกับการเปิดเผยกลไกการทำงานของกลยุทธ์ของคนนั้น โดยสามัญสำนึกไม่มีใครที่จะยอมรับข้อเสนอนั้น

ไคลม์ไม่ใช่คนเดียวที่คิดเช่นนั้น นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมดวงตาของเบรนถึงเบิกกว้างที่สิ่งที่จะเกิดต่อไป

กาเซฟหันดาบ 180 องศาและยื่นด้านจับให้ไอนซ์

"กาเซฟ! นายยอมแพ้ที่จะเอาชนะโดยสมบูรณ์แล้วเหรอ?!"

"เบรน! อย่าพูดสิ่งที่น่าอับอายเช่นนี้! ราชาผู้ร่ายเวทไม่ใช่คนประเภทนั้น"

ไอนซ์ถือดาบและร่ายเวทบทหนึ่ง หลังจากนั้นเขาหัวเราะ

"เอาล่ะ ดาบเล่มนี้น่าประทับใจทีเดียว"

ไอนซ์คืนดาบให้กาเซฟด้วยด้ามดาบ วิธีเดียวกับที่มันถูกมอบให้เขา

"ท่านกาเซฟ คุณรู้ถึงพลังของดาบนี้หรือไม่?"

"ผมเข้าใจมันอย่างสมบูรณ์ ดาบนี้มีความคมจนไม่คิดว่ามันจะเป็นจริงได้ ที่สามารถตัดโลหะได้เหมือนตัดกระดาษ"

"น่าเสียดาย นั่นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของพลังของดาบเล่มนี้"

"- อะไรนะ มันหมายความว่าอย่างไร ท่านราชาผู้ร่ายเวท?" (TLN: นี่ขนาดเข้าใจอย่างสมบูรณ์ . . .)

"เอาล่ะ โดยสรุป ดาบเล่มนี้คืออาวุธที่สามารถฆ่าข้าได้ อะไรประมาณนี้คือเงื่อนไขขั้นต่ำอย่างแน่นอนสำหรับการต่อสู้กันตัวต่อตัว (solo PVP duel) โดยที่ไม่มีอาวุธที่สามารถทำอันตราย (TLN: หรือแปลว่าทำให้บาดเจ็บ ทำความเสียหาย) ต่อข้าได้ นี่จะไม่มีอะไรมากไปกว่าการประหารชีวิต

ต้องขอโทษด้วยที่เปรียบเทียบคุณกับพวกหนูที่เข้ามาในปราการของข้า"

ไอนซ์พึมพำขณะที่เขาสร้างดาบสั้นอย่างรวดเร็วที่จู่ๆออกมาจากไหนไม่รู้

โดยไม่ลังเล เขาลากคมของดาบที่งดงาม (TLN: หรือแปลว่า ดีเลิศ ไม่ธรรมดา สง่างาม หรูหรา) ผ่านใบหน้าของเขาโดยการเฉือนอย่างแรง

มันไม่ทิ้งไว้แม้แต่รอยขีดข่วน

"สิ่งเสริมพลังที่อ่อนแออย่างนี้ไม่สามารถทำอันตรายต่อร่างกายข้าได้ สำหรับการอ้างอิง ดาบสั้นเล่มนี้ถูกเติมด้วยข้อมูล - หรือจะพูดได้ว่ามานา - มากเท่ากับดาบที่คุณถืออยู่ ท่านสโตรนอฟ อย่างไรก็ตามดาบของคุณสามารถทำอันตรายข้าได้ in clear defiance of what I know to be true (TLN: แปะอังกฤษละกันนะ แต่เดาว่ามันแปลว่าซึ่งมันขัดอย่างเห็นได้ชัดกับเรื่องจริงที่ข้ารู้ หรือไม่ก็แปลว่า นั่นคือสิ่งที่ข้ารู้อย่างชัดเจน หรืออื่นๆ) ข้าขอดาบเล่มนั้นเป็นรางวัล (TLN: หรือของที่ระลึก) หลังจากที่ข้าชนะได้หรือไม่" (TLN: สมกับเป็นท่านไอซ์ จุดอ่งจุดอ่อนบอกเค้าหมด มีบุคคลที่สามยืนฟังอยู่ด้วยนะนั่น แต่ยังดีที่ดาบคงไม่ได้ดีมาก กาเซฟเลเวลประมาณ30 คงไม่ได้ถือดาบเลเวล100 หรอก ถึงจะโจมตีไอนซ์ได้แต่พลังโจมตีคงจะ . . .)

กาเซฟยิ้มบาง

"ต้องขออภัยด้วยที่ต้องปฏิเสธ แต่ดาบเล่มนี้เป็นสมบัติของชาติ"

"ฮืม สู้กันโดยที่ไม่มีการลูทของถ้าอย่างนั้น? ตกลง ข้าจะเคารพในคำขอร้องนั้น" (TLN: รำคาญจริง ตัวนึงก็ไม่มีหน้าจะพูดได้ อีกคนนึงก็ใจอ่อนเกิน คนแพ้มีสิทธิ์พูดอะไรไม่ทราบ)

"ต้องขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ท่านราชาผู้ร่ายเวท"

หลังจากคืนดาบให้กับกาเซฟ ไอนซ์ลูบคางของเขาและครุ่นคิด เขาถอยหลังกลับไป ทีละก้าว ราวกับ conforming to some regulated distance between them (TLN: เดาว่า ปฏิบัติตามมาตรฐานการปรับระยะทางระหว่างพวกเขาหรือปฏิบัติตามข้อกำหนดในระยะทางมาตรฐานระหว่างพวกเขาหรือสร้างระยะห่างที่เป็นที่รู้กัน (ในการดวล) ระหว่างพวกเขา หรืออื่นๆ)

"ข้าคิดว่านี่น่าจะประมาณห้าเมตร และ . . . เพราะว่ามันไม่มีการนับถอยหลัง พวกเราต้องการสัญญาณ เจ้า ภายใต้ชุดเกราะสีขาว หาบางอย่างมาเป็นสัญญาณให้พวกเราได้เริ่ม"

ถูกเรียกชื่ออย่างกะทันหัน ไคลม์ตัวสั่น

"ไคลม์ ได้โปรด"

"ถ้าเช่นนั้น ผมมีกระดิ่งเวทมนตร์ที่นี่ ผมจะสั่นกระดิ่งและนั่นจะเป็นสัญญาณการเริ่มต้น"

ทั้งสองคนพยักหน้าอย่างเงียบๆให้กับข้อเสนอของไคลม์

กาเซฟยกดาบของเขาขึ้น ชี้ไปที่ดวงตาของศัตรู พละกำลังของเขาแผ่นไปทั่วทุกๆเส้นใยในตัวเขา ในสายตาของไคลม์ผู้ที่ยืนอยู่ด้านหลังของกาเซฟ ร่างกายของกาเซฟดูเหมือนจะใหญ่โตขึ้นระหว่างที่เขากำลังมองดูอยู่

นี่เป็นออร่าของดาบที่ล้นหลาม เขาไม่เคยได้เห็นแรงกดดันที่แท้จริงของหัวหน้านักรบของราชอาณาจักรที่สามารถสำแดงได้ อย่างไรก็ตามร่างกายของกาเซฟดูเหมือนจะอยู่ห่างไกล (TLN: หรือแปลว่า ห่างเหิน ลับตา แยกกัน ไม่คุ้นเคย เหมือนฝัน) และดูจอมปลอมดั่งภาพลวงตา

"ท่านสโตรนอฟ . . ."

นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็นกาเซฟมีชีวิต

"มันไม่มีอะไรรับประกัน"

"- เอ่อ?"

ทันใดนั้น เบรนประกาศการไม่ยอมรับกับไคลม์จากที่ที่เขายืนอยู่ ด้านข้างตัวเขา

"ไม่มีอะไรรับประกันว่ากาเซฟจะแพ้ ถึงโอกาสจะต่ำอย่างมากแต่มันยังมีโอกาสที่จะชนะอยู่ หมอนั่นมีท่าพิฆาตอยู่นายก็รู้? ศิลปะการต่อสู้ที่เขาใช้เป็นไพ่ตาย?"

"'Sixfold Slash of Light?'" (TLN: Sixfold=หกครั้งซ้ำๆ, Slash=ฟัน เฉือน หวด ตัด กรีด แทง, Light=แสง สว่าง อรุณ เปล่งปลั่ง ว่องไว)

เบรนยิ้มอย่างสงบ

"ไม่ มันเป็นศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงสุดที่เกินกว่านั้นไปมาก หมอนั่นได้เรียนรู้มัน" (TLN: เลเวล30 ได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ขั้นสุดยอด ถ้าเลเวล60 จะได้เรียนขั้นไหน . . .)

"อะไร นั่นคืออะไรครับ?!"

ขณะที่ไคลม์เตรียมกระดิ่ง เขามองไปที่ดาบที่ถูกยกขึ้นและใบหน้าของกาเซฟ ที่เต็มไปด้วยการพุ่งสมาธิและความสนใจที่เหมือนแสงเลเซอร์ (TLN: ทำไมต้องแสงเลเซอร์ . . .)

ใบหน้าที่แข็งแรงและมุ่งมั่นของชายที่ถูกยกย่องว่าเป็นหัวหน้านักรบโดยทุกประเทศรอบๆ

"อา มันมาจากอดีตนักผจญภัยระดับอาดามันไทท์ของราชอาณาจักร มันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่คิดค้นโดย Vestia Croft Di Lofan แต่เขาไม่สามารถใช้มันได้เนื่องจากอายุที่มากขึ้น ถ้าท่าลับขั้นสุดยอดของชั้น 'Nail Clipper' (TLN: แปลว่า กรรไกรตัดเล็บ) คือผลที่ได้จากการใช้ศิลปะการต่อสู้หลายๆอย่างพร้อมกัน ไพ่ตายพิฆาตของกาเซฟคือเทคนิคโจมตีเดี่ยวที่แข็งแกร่งที่สุด ใครจะรู้ . . . การโจมตีนั่นอาจเอื้อมไปถึงไอนซ์ อูล โกนก็ได้"

บางทีนั่นเป็นเหตุผลที่เขาได้ขอร้องให้ต่อสู้ตัวต่อตัว เบรนพูดระหว่างที่ตาของเขาไม่ออกจากฉากที่อยู่เบื้องหน้า

ไคลม์กลืนน้ำลาย มือที่กำลังถือกระดิ่งรู้สึกหนัก เมื่อเขาสั่นกระดิ่ง ชะตากรรมของกาเซฟจะถูกผนึก

"อยากจะเปลี่ยนตัวกับชั้นมั้ย?"

". . . ขอบคุณครับ แต่ . . . ผมจะทำมัน"

อะไรนะ เบรนพึมพำ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอย่างอื่นอีก

ไคลม์ยกกระดิ่งขึ้น เขาได้แต่ภาวนาให้ชัยชนะตกไปเป็นของกาเซฟ และต่อจากนั้น - เสียงดังกว่าที่คาดไว้ - กระดิ่งได้ดังขึ้น

การรับรู้ของเขาพุ่งสมาธิและความสนใจไปถึงขีดสุดอย่างสมบูรณ์ กาเซฟก้าวออกไปด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ

โดยที่ไม่พลาดแม้ช่วงเวลาเดียว เบรนกับไคลม์ลืมตาของพวกเขาและมองดู -

- และรวดเร็วกว่าพวกเขาทั้งหมด โลกก็ได้ไปสู่ความเงียบงัน

"ก็เหมือนกับที่ข้าได้พูดได้ว่า . . . มาตรการตอบโต้การหยุดเวลาเป็นสิ่งสำคัญ"

เพราะไอนซ์ได้ร่าย 'Silent Time Stop' (TLN: หยุดเวลาไร้เสียง หยุดเวลาเงียบๆ) โดยฉับพลัน กาเซฟ ดาบของเขาถูกยกสูงขึ้นและหยุดลงต่อหน้าไอนซ์

ไม่มีการโจมตีใดที่ใช้ได้ระหว่างที่เวลาถูกหยุด ถึงแม้เขาจะใช้เวทมนตร์โจมตีระดมใส่กาเซฟ แต่มันก็จะไม่ทำอันตรายต่อตัวเขา เพราะเหตุนี้ ไอนซ์จึงได้ร่ายเวทบทหนึ่งขณะที่เฝ้าติดตามเวลา

"[Delay Magic: True Death]" (TLN: เวทมนตร์หน่วงเวลา: ความตายที่แท้จริง)

นี่คือคาถาขั้นที่เก้า

เพราะ 'Grasp Heart' เป็นคาถาที่สะดวกสบายกว่า เขาจึงไม่ได้ใช้มันบ่อยนัก

เพราะไม่มีคาถาใดที่จะส่งผลกับศัตรูระหว่างที่เวลาถูกหยุด ดังนั้นทั้งหมดที่ต้องทำคือการหน่วงเวลาการเปิดใช้งานของคาถาจนถึงขณะที่ 'การหยุดเวลา' สิ้นสุดลง แม้ว่ามันจะเป็นการผสมการโจมตีแบบง่ายๆในทางทฤษฏี เคล็ดลับคือการควบคุมเวลาให้ถูกต้องแม่นยำ ที่เป็นการยากเป็นอย่างมาก เช่นนี้มีเพียง 5% ของผู้ร่ายเวททั้งหมดที่สามารถทำมันได้สำเร็จ

หลังจากที่ฝึกฝนและฝึกซ้อม ไอนซ์ก็อยู่ใน 5% เช่นกัน

". . . ลาก่อน กาเซฟ สโตรนอฟ ข้าไม่เคยเกลียดคุณเลย" (TLN: ม่ายยยยยยยยยยยยยย ลาก่อย สงสารท่านไอนซ์ ท่านไอนซ์อุตส่าห์มาหาคนรู้จักที่นับถือและให้เกียรติ ถ้ากาเซฟมาขอเป็นเพื่อนหรือยอมมารับใช้ เรื่องจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้งไปแล้ว หมายเหตุ ถึงกาเซฟจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็เป็นได้แค่ฝุ่นของท่านไอนซ์ การเป็นคนรับใช้ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง มโนสายตรงจากนาซาริก)

คาถาสิ้นสุดลง เวลาหวนกลับคืนสู่โลกอีกครั้ง

หลังจากนั้นทันที คาถาอีกบทก็ถูกเปิดใช้งานก่อนอย่างอื่น

- กาเซฟล้มลงอย่างช้าๆ (TLN: ก็นั่นล่ะฮะทั่นผู้ชม)

"เอ่อ?" (TLN: เอ๋?)

"อะ - อะไร?"

ไคลม์กับเบรนไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

ในขณะที่กาเซฟได้พุ่งออกไป จู่ๆเขาก็ล้มลง ไอนซ์ก้าวออกมาและรับร่างของกาเซฟ (TLN: ซึ้ง T^T)

ดาบของเขาตกลงจากนิ้วมือที่ไร้ซึ่งกำลัง และร่วงหล่นสู่พื้น การต่อสู้ได้สิ้นสุดลง

อย่างไรก็ตามไม่มีทางที่จะสามารถเข้าใจได้  ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

"ให้ตาย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นครับเนี่ย . . .?"

"ชั้นจะไปรู้ได้วะ!" (TLN: อึ้งแอกไปสิ)

เบรนส่งเสียงร้องตะโกนด้วยความโกรธ

"เป็นอะไรไป? ลุกขึ้นมา! กาเซฟ!"

และต่อจากนั้นความหวังอย่างจริงจังของเบรนถูกปฏิเสธอย่างราบเรียบ

"เขาตายไปแล้ว"

ด้วยความนับถือ บางทีอาจจะเป็นความเคารพ ราชาผู้ร่ายเวทไอนซ์วางกาเซฟลงบนพื้น หลังจากนั้นเขาค่อยๆปิดตาที่เปิดกว้างของเขา

ขณะที่มองใบหน้าของกาเซฟ เขาพูดกับสองคนที่อยู่ใกล้ๆ

". . . เห็นจากการที่เขาได้มาท้าดวลโดยที่ไม่มีโอกาสชนะทำให้ข้านึกถึงเวลานั้น เพื่อเป็นเกียรติแก่หัวหน้านักรบ ข้าจะสั่งให้ดาร์คยังหยุดการโจมตี ร่างของเขาจะถูกส่งคืนให้กับพวกเจ้า" (TLN: พูดได้ว่าทหารที่เหลือไม่ตายเป็นเพราะและไม่เป็นเพราะกาเซฟ ไอนซ์นับถือในตัวกาเซฟจึงไม่โจมตีต่อ แต่กาเซฟไม่ได้ทำอะไรตรงๆให้เกิดการไว้ชีวิตทหารพวกนี้ ที่จริงสิ่งที่กาเซฟทำ ต้องส่งผลทำให้ทหารทุกคนในสนามรบต้องตายด้วยซ้ำ)

". . . ไม่ ไม่มีความจำเป็นสำหรับเรื่องนั้น พวกเราจะนำตัวกาเซฟกลับไป ไม่จำเป็นต้องลำบากท่าน"

ไคลม์หายใจออกมาอย่างหนัก

เบรนจะไปท้าดวลกับไอนซ์ในการต่อสู้ที่ไร้ความหวังหรือเปล่า? เขาสงสัย อย่างไรก็ตามมันไม่จำเป็นสำหรับเรื่องนั้น

"อย่างนั้นหรือ"

ไอนซ์ตอบก่อนที่จะยืนขึ้น

"คาถาตายโดยทันที ที่ข้าใช้ 'True Death' จะทำให้เวทมนตร์ชุบชีวิตขั้นต่ำไม่เป็นผล บอกสิ่งนี้ให้กับคนที่ราชอาณาจักร บอกพวกเขาว่าข้าจะเมตตากับผู้ที่ยอมจำนนด้วยความเคารพยำเกรง"

ไอนซ์ลอยขึ้นไปบนอากาศอย่างนุ่มนวล

แม้พวกเขาจะเห็นหลังที่ไร้การป้องกันของเขา ทั้งคู่รู้ว่าพวกเขาไม่สามารถกระทำสิ่งที่น่าอับอายอย่างการโจมตีจากข้างหลัง (TLN: เดี๋ยวๆ ใช่เหตุผลเหรอ จะโจมตีจากด้านหน้าด้านหลังด้านข้างก็ไม่เป็นผลทั้งนั้นแหละสองหน่อเอ้ย)

ไอนซ์นั่งลงบนหนวดของดาร์คยัง มันเป็นบังลังก์ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง

"ยอมยกเอ-รันเทลและพื้นที่รอบๆให้แก่ข้า และลูกแกะเหล่านี้จะไม่ไปเล่นซนที่เมืองหลวงของราชอาณาจักร บอกสิ่งนี้กับราชา เมื่อเจ้าพบกับเขาอีกครั้ง"

ดาร์คยังหันกลับและจากไป และดาร์คยังอีกสี่ตัวเริ่มเดินทางกลับไปที่ปราการของจักรวรรดิเช่นกัน

"ไคลม์คุง ชั้นมีเรื่องขอร้องเรื่องนึง . . . ให้ชั้นได้พาท่านกาเซฟกลับไปได้มั้ย?"

". . . ครับ ถ้าเช่นนั้นผมจะนำดาบของท่านกาเซฟกลับบ้าน"

"มีคนมากมายได้ตายลง"

"ใช่ครับ มากเกินกว่าจะนับได้"

". . . เกิดอะไรขึ้น?"

"ผมก็ไม่รู้ แต่ถ้าหากมีคนอย่างนั้นเรียกตัวเองว่า ราชาและอ้างสิทธิ์ในดินแดนนี้ . . ."

"ในอนาคต สงครามจะต้องอุบัติขึ้นอย่างแน่นอน และใครจะรู้ คนตายอาจมีมากกว่าจำนวนศพที่นี่ในวันนี้"

ระหว่างที่เดินตามหลังเบรน ผู้ที่แบกกาเซฟไว้บนหลังของเขา ไคลม์ได้คิดถึงอนาคตของราชอาณาจักร ที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด (TLN: หรือแปลว่า ปัญหา เมฆ)

คำพูดของเบรนจะต้องเป็นจริงอย่างแน่นอน อะไรคือสิ่งสำคัญที่เขาสามารถทำได้ และจากนั้น อะไรคือสิ่งที่เขาจะทำ

มากไปกว่านั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ

- ผมจะต้องปกป้องท่านราน่า

ไคลม์กำหมัดของเขา และเตรียมตัวเตรียมใจของเขา อย่างน้อยที่สุด เขาต้องปกป้องนายหญิงของเขา ไม่ว่าต้องจ่ายด้วยอะไรก็ตาม

(TLN: เห็นมีคนบอกว่าที่กาเซฟยอมดวลตัวต่อตัวของไอนซ์เพื่อที่จะได้ให้เบรนกับไคลม์ได้เห็นการต่อสู้หรือ ได้เห็นจุดอ่อนของไอนซ์ ว่าเป็นอย่างไร บางคนก็บอกว่าก็แค่ให้ได้รู้ว่าไอนซ์นั้นทรงพลังแค่ไหนแล้วอย่าไปต่อสู้ด้วย
บางคนก็บอกว่าการกระทำของกาเซฟนี้เป็นการตบหน้าราชา กาเซฟบอกแล้วว่าให้ยกเอ-รันเทลให้ก็ไม่ฟัง)

(TLN: อย่างไรก็ตามกาเซฟก็ได้ตายไปและออกไปจากเนื้อเรื่อง ถึงจะถูกกล่าวถึงภายหลังอยู่บ้างก็ตาม ชายผู้ที่ได้จงรักภักดีต่อพระราชาของเขาอย่างถึงที่สุด ชายผู้ที่มีเกียรติ ใช้ชีวิตของตนเองที่คิดว่าหนึ่งชีวิตต้องทำให้ดีที่สุดได้อย่างที่เขาคิดว่าคุ้มค่าและสามารถที่จะทำได้ ชายที่ทำหน้าที่ของหัวหน้านักรบของราชอาณาจักรรี-เอสทีเซอย่างเต็มที่จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ขออาลัยแด่ชายที่เป็นมาตรฐานการกำหนดความสามารถ (เลเวล) ของโลกใหม่ในนิยายโอเวอลอร์ดไว้ ณ ที่นี่)


TLN: ถึงจะจบตอนที่ 4 ที่เป็นตอนสุดท้ายของเล่ม 9 แต่ยังไม่จบเล่มนะ ตอนหน้า บทส่งท้าย!
TLN: อาจมีการแปล เข้าใจ หรือใส่เนื้อหาผิดพลาดไปบ้าง ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย
TLN: คอมเมนต์ด้านล่างได้โดยไม่ต้องมี account

Comments

  1. noooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooo
    oooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooo

    ReplyDelete
  2. เป็นกำลังใจให้ครับ ทำต่อไป รออ่านอยู่
    R.I.P กาเซฟ

    ReplyDelete
  3. กาเซฟคงเหนื่อยจะทำงานรับใช้ราชาต่อละมั่ง ยอมแพ้ไอนซ์ก็โดนหาว่าทรยศแน่นอน ซึ่งไม้บรทัดแบบกาเซฟไม่ยอมรับแหง บอกให้ยกพื้นที่ให้ดีๆแล้วแท้ๆ อยากรบกันก็ซวยเป็นกลุ่มแรกในโลกใหม่ให้ไอนซ์โชว์พลัง

    ReplyDelete
  4. R.I.P ไม้บรรทัดเลยครับ

    ReplyDelete
  5. จริงๆไม่มีสแตนด์อิน

    เรียกว่าซวยก็เหมาะดี เพราะท่านไอนซ์ได้เยี่ยมราชอาณาจักรเป็นที่แรกของโลกใหม่เลย ส่วนที่ต่อไปนั้นท่านไอนซ์จะไปเยี่ยมที่ไหนต่อ โปรดติดตามตอนต่อไป

    ReplyDelete

Post a Comment

Popular posts from this blog

Overlord Light Novel volume 10 (นิยายเล่ม 10) - สรุปเนื้อหา

สปอยล์แบบจัดเต็ม อนิเมะ Overlord Season 03 Episode 12 (ส่วนที่ 2)